Assembly & Automation Technology logo
17-22 มิถุนายน 2569

ยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ ปิดทุกช่องโหว่ในภาคการผลิต

            เมื่อเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะเข้ามาขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมผ่านระบบ IIoT, AI, คลาวด์ และ 5G ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้ผู้ผลิตต้องเร่งเสริมเกราะให้ระบบการผลิตมีความมั่นคง ปลอดภัย และพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น การเชื่อมต่อเครื่องจักรและระบบควบคุมเข้าสู่เครือข่ายด้วย IIoT ช่วยให้สามารถดึงข้อมูลจากกระบวนการผลิตมาวิเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน แต่ขณะเดียวกันก็เปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีเข้าถึงระบบได้ง่ายขึ้น การนำเทคโนโลยีตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคามแบบอัตโนมัติ (ATDR) เข้ามาใช้งานจึงเป็นทางออกสำคัญ ด้วยการใช้ AI, ML และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ระบบจะสามารถระบุและจัดการกับภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีโดยไม่ต้องรอการตอบสนองจากมนุษย์ ช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่น ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย และดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องในยุคดิจิทัล


ภัยคุกคามทางไซเบอร์ในภาคการผลิต

  • ฟิชชิ่งและวิศวกรรมสังคม (Social Engineering) 

ฟิชชิ่งและวิศวกรรมสังคมมักใช้ประโยชน์จากความไว้วางใจและความเร่งด่วน เพื่อหลอกล่อพนักงานให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญหรืออนุมัติธุรกรรมฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ต

  • การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์

แรนซัมแวร์สามารถทำให้ภาคการผลิตหยุดชะงักโดยการเข้ารหัสระบบสำคัญและเรียกร้องค่าไถ่ ซึ่งมักแพร่กระจายผ่านการฟิชชิ่ง มัลแวร์ หรือการใช้ระบบเก่าที่ไม่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย

  • การโจมตีซัพพลายเชน

การโจมตีซัพพลายเชนใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของผู้ให้บริการเพื่อแทรกซึมเข้าสู่ระบบของผู้ผลิต ซึ่งมักเกิดจากการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ถูกโจมตีหรือโค้ดที่มุ่งสร้างความเสียหาย

  • ภัยคุกคามจากบุคคลภายใน

ภัยคุกคามจากบุคคลภายในเกิดจากการที่พนักงานหรือผู้รับเหมาใช้สิทธิ์การเข้าถึงในทางที่ผิด ไม่ว่าจะด้วยเจตนาร้ายหรือความประมาทเลินเล่อ ซึ่งทำให้การใช้เครื่องมือตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็น

  • การโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญา

ผู้มีอำนาจระดับประเทศและอาชญากรไซเบอร์มักเล็งเป้าหมายไปที่ผู้ผลิตเพื่อขโมยทรัพย์สินทางปัญญา เช่นการออกแบบชิปไปจนถึงกระบวนการผลิตที่เป็นกรรมสิทธิ์

  • การก่อวินาศกรรมอุปกรณ์

การโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อระบบควบคุมอุตสาหกรรมหรือระบบเทคโนโลยีปฏิบัติการสามารถก่อให้เกิดอุปสรรคในการผลิต และอาจนำไปสู่ภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินได้

 

เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อรับมือกับความปลอดภัยทางไซเบอร์

ความรุนแรงของภัยทางไซเบอร์ ทำให้หลายบริษัทเริ่มหันมาประโยชน์ด้านเทคโนโลยีให้เต็มที่ ผสานกับการกำกับดูแลที่เข้มงวดผ่านกลยุทธ์ที่ใช้ได้จริง ดังนี้:

  • การเชื่อมต่อเครื่องจักรและระบบอุตสาหกรรมเข้ากับเครือข่าย (IIoT)

หลักการทำงานของระบบ IIoT คือ การเอาข้อมูลในกระบวนการผลิต (Utilize Manufacturing Data) มาใช้เพื่อที่จะปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ดีและทำให้มีประสิทธิภาพหรือผลผลิตที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย  โดยองค์ประกอบของระบบ มีตัวอย่างเช่น เซนเซอร์ (Sensor) เก็บข้อมูลในเชิง Physical เช่น ความดัน อุณหภูมิ หรือการสั่นสะเทือน เป็นต้น,ชุดควบคุม (Controller) ที่เป็นการนำข้อมูลจำนวนมหาศาลมาคิดคำนวน และสั่งการต่อไป รวมถึงชุดเครื่องจักร เปรียบเสมือน Actuator ที่ควบคุมกลไกหรือส่วนประกอบต่างๆ ในระบบให้ทำงานตามที่ต้องการ

  • การตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคามแบบอัตโนมัติ (Automated Threat Detection and Response - ATDR)

เป็นการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI), การเรียนรู้ของเครื่อง (ML) และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อระบุ ประเมิน และรับมือกับภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วระดับเครื่องจักร ซึ่งสำหรับองค์กรที่มองไปข้างหน้า จะเป็นการสร้างความยืดหยุ่น การปฏิบัติตามข้อกำหนด และความต่อเนื่องของธุรกิจในระยะยาว

  • สถาปัตยกรรม Zero Trust (ZTA)

ZTA เป็นแนวทางด้านความปลอดภัยที่ยึดหลักตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้ อุปกรณ์ และแอปพลิเคชันทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง แทนการอนุมัติการเข้าถึงผ่านตำแหน่งเครือข่ายเพียงอย่างเดียว

  • การตรวจจับภัยคุกคามด้วย AI

นำหลักการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) ผนวกเข้ากับการตรวจสอบโดยมนุษย์เพื่อประมวลผลบันทึกความปลอดภัยและระบุพฤติกรรมที่น่าสงสัย เพื่อให้นักวิเคราะห์สามารถตอบสนองได้เร็วขึ้นและลดต้นทุนความเสียหาย

  • การจัดการการอัปเดตที่ราบรื่น

ระบบอัตโนมัติสามารถช่วยในการอัปเดตข้ามแพลตฟอร์มและอุปกรณ์เพื่ออุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและลดภาระงานของบุคคลากร

  • แนวทางการรักษาความปลอดภัยในตัว

วางมาตรการป้องกันความปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้นโครงการต่างๆ เช่นการวิเคราะห์โค้ดและการประเมินความเสี่ยงเพื่อลดช่องโหว่ พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและการจัดการต้นทุนในระยะยาว

  • การแยกส่วนเครือข่ายและการป้องกันแบบไดนามิก

แบ่งส่วนโครงสร้างพื้นฐานเป็นหน่วยย่อยๆ และใช้การเข้ารหัสแบบไดนามิกเพื่อจำกัดผลกระทบที่อาจเกิดจากการละเมิดสิทธิ์ และป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

  • การยืนยันตัวตนที่ยกระดับไปอีกขั้น

ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลนอกเหนือจากการใช้เพียงรหัสผ่านด้วยระบบไบโอเมตริกซ์ การสอดส่องดูแลอย่างต่อเนื่อง และการตรวจสอบผู้ใช้อัตโนมัติเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล

  • การดำเนินงานด้านความปลอดภัยอัจฉริยะ

ใช้เครื่องมืออัตโนมัติสำหรับงานที่ต้องทำซ้ำๆ เช่น การบล็อกภัยคุกคามและการแจ้งเตือน เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถเน้นแก้ปัญหาจากการโจมตีที่ซับซ้อน ในขณะที่ยังคงบังคับใช้นโยบายที่สอดคล้องกันได้

 

           ติดตามองค์ความรู้ที่เท่าทันระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีอัจฉริยะได้จากบล็อกของเราในอนาคต และอย่าพลาดโอกาสชมการสาธิตเทคโนโลยีแบบเรียลไทม์และพบปะว่าที่ผู้ให้บริการเพื่อป้องกันภัยทางไซเบอร์ที่งาน แอสเซมบลี แอนด์ ออโตโมชั่น เทคโนโลยี 2026 ระหว่างวันที่ 17 - 20 มิถุนายน 2569 ณ ไบเทค บางนา  



Reference:

https://hoxhunt.com/blog/cyber-security-threats-in-manufacturing-industry

https://www.paloaltonetworks.com/cyberpedia/what-is-a-zero-trust-architecture

https://www.sentinelone.com/cybersecurity-101/cybersecurity/cyber-security-trends/